พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018 คว้ารางวัลโมโตจีพีที่ดีที่สุดของโลก
"พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2018" ศึกโมโตจีพี ครั้งแรกของไทย กระหึ่มโลกอีกครั้ง "ไออาร์ทีเอ"หรือ สมาคมทีมแข่งจักรยานยนต์นานาชาติ เลือกเป็นโมโตจีพีที่ดีที่สุด ด้านนาย เนวิน ชิดชอบ ประธานสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ขอบคุณทุกฝ่าย ยืนยันปีหน้าจะดียิ่งขึ้นอีก
หลังจากการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2018 สนาม 15 รายการ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ระหว่างวันที่ 5-7 ตุลาคมที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม จากที่ตลอดสัปดาห์การแข่งขันนั้นมีผู้เข้าร่วมชมมากที่สุด ในบรรดาสนามทั้ง 19 สนามตลอดฤดูกาล 2018
ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ยังได้รับการโหวตจากสมาคมทีมแข่งรถจักรยานยนต์นานาชาติ หรือ ไออาร์ทีเอ ให้เป็นสนามแข่งขันที่ดีที่สุดประจำปีด้วยรางวัล "โมโตจีพี กรังด์ปรีซ์ ออฟ เดอะ เยียร์ " (MotoGP Grand Prix of the Year) ทั้งที่เพิ่งเป็นการจัดการแข่งขันในปีแรก ท่ามกลางความคาดหวังมากมาย แต่พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ก็ประสบความสำเร็จอย่างสูง
ไออาร์ทีเอร่วมกับบริษัท ดอร์น่า สปอร์ตผู้จัดการแข่งขัน พิจารณามอบรางรางวัลนี้ให้ "พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ " จากปรากฏการณ์ที่บรรดาแฟนๆ ต่างให้ความสนใจอย่างล้นหลาม ตั้งแต่ที่แฟนมอเตอร์สปอร์ตไทยแห่ร่วมชมการทดสอบสนามครั้งแรกของสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และการที่สื่อมวลชนนับร้อยเข้าร่วมกิจกรรมประชาสัมพันธ์การแข่งขันโดยมาร์ค มาร์เกซ ที่กรุงเทพมหานคร
อีกทั้งการแข่งขันที่บุรีรัมย์ยังเป็นสนามที่มีผู้เข้าชมการแข่งขันมากที่สุดในฤดูกาลแข่งขันนี้ โดยมีผู้ชมกว่า 220,000 คนร่วมชมการแข่งขัน ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ตลอดระยะเวลา 3 วัน ผู้ชมต่างมีโอกาสได้เพลิดเพลินกับการแข่งขันในแบบฉบับของโมโตจีพี
ได้ชมไฮไลท์ที่มาร์ค มาร์เกซขับเคี่ยวกับ อันเดรีย โดวิซิโอโซ่ อย่างสูสีจนถึงโค้งสุดท้ายก่อนจะยกล้อเข้าเส้นชัยอย่างฉิวเฉียด จารึกชื่อเป็นผู้คว้าแชมป์การแข่งขันโมโตจีพีคนแรกบนแผ่นดินไทย เป็นฉากจบการแข่งขันที่น่าประทับใจ จนได้เป็น โมโตจีพีที่ดีที่สุดประจำปีนี้
รางวัลดังกล่าวยังรวมถึงการจัดการอย่างยอดเยี่ยมตลอดจนบรรยากาศและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในกิจกรรม อันเป็นการสร้างมาตรฐานให้กับ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ ในการรักษาตำแหน่งอันทรงคุณค่าต่อไปในฤดูกาล 2019
นายเนวิน ชิดชอบ ประธาน สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต กล่าวด้วยความยินดีว่า “ในฐานะตัวแทนของประชาชนชาวบุรีรัมย์และชาวไทยทั้งประเทศ รู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจเป็นอย่างมากที่การแข่งขัน พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ได้รับรางวัล โมโต จีพี กรังด์ปรีซ์ ออฟ เดอะ เยียร์ (MotoGP Grand Prix of the Year) ประจำปี 2018 นี้ และต้องขอขอบคุณคณะกรรมการทุกท่านที่ให้เกียรติมอบรางวัลนี้ให้แก่เรา
แน่นอนว่าตลอดระยะเวลาของการเตรียมการ เราได้พบกับปัญหาและอุปสรรคมากมาย แต่เราได้เรียนรู้และแก้ไขปัญหาต่างๆ เหล่านั้นจนในท้ายที่สุดก็สามารถสร้างสรรค์กิจกรรมที่ประสบความสำเร็จออกมาดังภาพที่ปรากฏ ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณเหล่าบรรดาผู้สนับสนุนการจัดการแข่งขันรวมถึงผู้สนับสนุนของสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โดยเฉพาะกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ พีทีที ในการร่วมสนับสนุนการจัดการแข่งขันเป็นอย่างดี
รวมถึงต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดบุรีรัมย์ที่ได้แสดงศักยภาพของชาวไทยไปสู่สายตาของชาวโลก ภายในงานยังประกอบไปด้วยเอกลักษณ์ไทยหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการนำรถอีแต๋นมาทำเป็นรถรับ-ส่งภายในสนาม ตลอดจนกิจกรรมมวยไทย เอ็กซ์โป ที่รวบรวมเอาศิลปะการต่อสู้ของชาวไทยมาจัดการแข่งขันให้ได้ชมกันสดๆ ติดขอบเวที รวมทั้งการออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับมวยไทย และคงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่พูดถึงเหล่าบรรดาอาสาสมัคร “กูเก็บ” ผู้ที่คอยช่วยเก็บขยะทำความสะอาดรอบบริเวณงาน และทุกๆ คนที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการถ่ายทอดประสบการณ์และความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับผู้ชมจากทั่วโลก
ท้ายที่สุดนี้ ผมต้องถือโอกาสนี้กล่าวขอบคุณเพื่อนที่ดีของเรา ดอร์น่า สปอร์ต ที่เล็งเห็นและมอบโอกาสให้กับเราในการเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการแข่งขันจักรยานยนต์รายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เราสัญญาว่าเราจะนำประสบการณ์ที่ได้รับในทุกๆ การแข่งขันมาปรับใช้เพื่อให้ พีทีที ไทยแลนด์ กรังปรีซ์ เป็นงานที่ดียิ่งๆขึ้นไป”
ด้าน เฮิร์ฟ พอนเชอรัล ประธานสมาคมทีมแข่งจักรยานยนต์นานาชาติ หรือ ไออาร์ทีเอ กล่าวว่า “เราต่างตื่นเต้นและแทบจะอดทนรอไม่ไหวสำหรับการได้สัมผัสประสบการณ์เป็นครั้งแรกกับ พีทีที ไทยแลนด์ กรังปรีซ์ และในท้ายที่สุดเราสามารถยืนยันได้ว่าการแข่งขันนี้เป็นการแข่งขันที่ดีที่สุดประจำฤดูกาลนี้ในหลายๆ แง่มุม
ทุกๆ อย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น คณะผู้จัดงานก็ยอดเยี่ยมมาก ทุกปัญหาที่เกิดขึ้นได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็ว ผู้เข้าชมต่างมีความสุขและเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า และแฟนๆ ก็เชียร์กันได้อย่างสุดยอดมาก ระบบการเข้า-ออกสนามแข่งขันทำได้อย่างรวดเร็วแสดงให้เห็นว่าพวกเขามีความเข้าใจในโมโตจีพีเป็นอย่างดี
ในการวางตำแหน่งของลานกิจกรรมใกล้กับบริเวณแพ็ดด็อกก็ส่งเสริมให้เกิดโอกาสทางธุรกิจของเราอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของผู้ลงทุน ผู้สนับสนุน ทีม ตลอดจนนักแข่ง ต้องถือว่าการแข่งขั้นครั้งแรกในประเทศไทยนี้ ประเทศที่มีความสำคัญกับโมโตจีพี สามารถสร้างสรรค์งานออกมาได้ดีถึงเพียงนี้
เป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบให้กับสนามอื่นๆ ที่จะทำตามเพื่อให้ได้รับรางวัลนี้ ในมุมมองของผม มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างสรรค์งานให้ออกมาดีกว่านี้อีกแล้ว”
ส่วน คาร์เมโล่ เอสเปเลต้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของดอร์น่า สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิและจัดการแข่งขันโมโต จีพี กล่าวว่า “ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก และขอต้อนรับบุรีรัมย์เข้าสู่ปฏิทินของโมโตจีพีอย่างเป็นทางการ และรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้เห็น พีทีที ไทยแลนด์ กรังปรีซ์ ได้รับรางวัลอันทรงเกรียรตินี้
เอเชียเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับการโมโตจีพี และสิ่งที่เกิดขึ้นที่บุรีรัมย์ต้องบอกว่าเป็นความคลั่งไคล้ที่สุดยอดมากสำหรับแฟนๆ ในภูมิภาคนี้
พีทีที ไทยแลนด์ กรังปรีซ์ เป็นแนวทางที่สมบูรณ์แบบให้กับงานที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต ผมแทบจะทนรอไม่ไหวที่จะกลับไปที่บุรีรัมย์”