ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เปิดตัว “บอนเนวิลล์ บอบเบอร์” “บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์” โมเดล 2021 อัพเกรดมาตรฐานยูโร 5 อีกระดับของสมรรถนะที่เหนือกว่า
ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ เปิดตัวรถจักรยานยนต์ตระกูลโมเดิร์นคลาสสิกบอนเนวิลล์ (Bonneville) รุ่นปี 2021 โฉมใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ “บอนเนวิลล์ บอบเบอร์” (Bonneville Bobber) และ “บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์” (Bonneville Speedmaster) ที่ได้รับการวิวัฒนาการเพื่อเพิ่มสมรรถนะ ความสามารถ และความดูดีมีสไตล์ สมกับเป็นต้นแบบรถจักรยานยนต์สัญชาติอังกฤษระดับตำนาน โดย “บอนเนวิลล์ บอบเบอร์” (Bonneville Bobber) เกิดมาเพื่อการแต่งคัสตอมอย่างแท้จริง มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์สูบคู่แรงบิดสูง ขนาด 1,200 ซีซี ที่ผ่านการปรับปรุงเพื่อให้ได้มาตรฐาน EURO 5 ส่งมอบกำลังสูงสุด 78 แรงม้า ที่ 6,100 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 106 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ถังน้ำมันเชื้อเพลิง 12 ลิตรที่ใหญ่ขึ้น
สไตล์การตกแต่งและเก็บรายละเอียดดำสนิทแบบใหม่ ด้วยฝาครอบท่อเครื่องยนต์ ฝาครอบลูกเบี้ยว และฝาครอบสเตอร์เคลือบสีฝุ่นสีดำแบบใหม่ ให้รูปลักษณ์ที่ดูดุดันยิ่งขึ้น ราคาอย่างเป็นทางการ 593,000 บาท ในขณะที่ “บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์” (Bonneville Speedmaster) ยังคงความเป็นรถจักรยานยนต์ cruiser ในสไตล์ laid-back ที่สามารถส่งมอบสมรรถนะที่เหนือระดับด้วยเครื่องยนต์สูบคู่แรงบิดสูง ขนาด 1,200 ซีซี ที่ผ่านการปรับปรุงเพื่อให้ได้มาตรฐาน EURO 5 ส่งมอบกำลังสูงสุด 78 แรงม้า ที่ 6,100 รอบต่อนาที และมอบแรงบิดสูงสุดที่ 106 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำเพียง 3,850 รอบต่อนาที เสริมด้วยเอกลักษณ์โดดเด่นตามสไตล์แบบบอนเนวิลล์ด้วยตัวถังสไตล์มินิมอล พร้อมการเก็บรายละเอียดที่คงไว้ซึ่งภาพลักษณ์ต้นแบบของสปีดมาสเตอร์ ยกระดับความสะดวกสบาย ความดูดีมีสไตล์ และการขับขี่ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ราคาอย่างเป็นทางการ 593,000 บาท ซึ่งทั้ง 2 รุ่น พร้อมเปิดให้จับจอง ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายไทรอัมพ์ทั้ง 13 แห่งทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
มร.มาร์เซโล ซิลวา ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกฝ่ายขาย และการตลาด (Regional Director Asia/Pacific – Sales & Marketing) บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ จำกัด เปิดเผยว่า สำหรับปี 2564 ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ ยังคงเดินหน้าแผนการตลาดในการเปิดตัวรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ เพื่อตอบโจทย์การขับขี่ทุกรูปแบบตามสโลแกน “For the Ride” โดยล่าสุดได้เปิดตัวรถจักรยานยนต์ 2 รุ่นใหม่ล่าสุด ได้แก่ “บอนเนวิลล์ บอบเบอร์” (Bonneville Bobber) และ “บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์” (Bonneville Speedmaster) ที่กลับมาจะมาสร้างชื่ออันเป็นตำนานให้กับไทรอัมพ์อีกครั้ง ด้วยเอกลักษณ์ของความเป็นรถจักรยานยนต์ตระกูลโมเดิร์นคลาสสิกบอนเนวิลล์ที่ได้รับการสืบทอดมาอย่างยาวนานจากต้นแบบไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์ (Triumph Bonneville) ที่ถือกำเนิดขึ้นคันแรกเมื่อปี 1959 ซึ่งไทรอัมพ์ บอนเนวิลล์ (Triumph Bonneville) รุ่นปี 2021 นี้ ยังคงลักษณะเด่นของต้นแบบรถจักรยานยนต์สัญชาติอังกฤษระดับตำนาน แต่ละคันล้วนถือกำเนิดจากโรงงานวิจัยและพัฒนาที่ทันสมัยของไทรอัมพ์ ในเมืองฮิงคลีย์ ประเทศอังกฤษ อีกทั้งถูกสร้างขึ้นอย่างประณีต เพื่อคงไว้ซึ่ง DNA ด้านดีไซน์ระดับตำนานอย่างครบครัน และสร้างรถที่มีขีดความสามารถแบบโมเดิร์นอย่างแท้จริง โดยในครั้งนี้มาพร้อมความพิเศษของเครื่องยนต์ที่ได้รับการปรับปรุงเพื่อให้ได้มาตรฐาน EURO 5 สามารถตอบสนองได้เร็วขึ้น และปล่อยไอเสียน้อยลง
สำหรับรถจักรยานยนต์ที่เป็นคัสตอมคลาสสิกสายพันธุ์แท้อย่าง “บอนเนวิลล์ บอบเบอร์” (Bonneville Bobber) ซึ่งในครั้งนี้ได้รับการยกระดับสมรรถนะขึ้นอีกขั้นด้วยขุมพลังเครื่องยนต์สูบคู่แรงบิดสูง ขนาด 1,200 ซีซี ส่งมอบกำลังสูงสุด 78 แรงม้า ที่ 6,100 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 106 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ในขณะที่ด้านขีดความสามารถได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นเช่นกัน ด้วยตัวรถที่ทำจากโครงเหล็ก ตัวถังน้ำมันเชื้อเพลิงขนาด 12 ลิตรที่ใหญ่ขึ้น พร้อมเบรก Brembo และโช้ค Showa ขนาด 47 มม. ที่หนายิ่งกว่าเดิม เพื่อสร้างภาพลักษณ์ช่วงหน้ารถที่ทั้งกำยำและสง่างาม ล้อหน้าแบบใหม่ ขนาดใหญ่ 16 นิ้ว ดูเข้ากันกับล้อหลังแบบกว้างของบอบเบอร์ (Bobber) เป็นอย่างดี โดยทั้งคู่จะใช้ดีไซน์ล้อแบบซี่ลวดคลาสสิก ที่มาพร้อมวงล้อสีดำ ยาง Avon Cobra ที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อบอบเบอร์ (Bobber) โดยเฉพาะ ด้วยโครงสร้างน้ำหนักเบา เพื่อความคล่องตัวขณะใช้ความเร็วสูง และมอบเสถียรภาพระดับแนวหน้า นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังมั่นใจกับสมรรถนะในการควบคุมรถด้วยคาลิปเปอร์ 2 สูบที่ติดตั้งมาพร้อมจานเบรกคู่สุดพรีเมียมของ Brembo ในขณะที่ล้อหลังใช้จานเบรกเดี่ยว ABS และระบบควบคุมการยึดเกาะถนนล้ำสมัยของไทรอัมพ์ที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับเพิ่มความมั่นคงและความปลอดภัยให้ผู้ขับขี่ โดยโหมดการขับขี่ของบอนเนวิลล์ บอบเบอร์ (Bonneville Bobber) มีทั้งหมด 2 โหมด ได้แก่ ‘Road’ และ ‘Rain’
ในขณะที่สไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของจักรยานยนต์รุ่นนี้คือ รูปลักษณ์แบบ hard-tail ที่นำเสนอความเป็นสายพันธุ์แท้ของบอบเบอร์ (Bobber) ได้แก่ เบาะนั่งอะลูมิเนียมแบบลอยตัว พร้อมระบบกันสะเทือนแบบ monoshock และสวิงอาร์มแบบ “swing-cage” สุดโดดเด่น ที่ช่วยให้มั่นใจว่าการควบคุมล้อจะอยู่ในระดับยอดเยี่ยม และยังช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ขับขี่ เบาะนั่งได้รับการปรับและขึ้นรูปให้เหมาะสมตามหลักสรีรศาสตร์เพื่อความสะดวกสบาย พร้อมการเก็บรายละเอียดด้วยการเย็บตะเข็บอย่างสวยงาม เบาะนั่งมีความสูงเพียง 690 มม. ที่สามารถปรับตำแหน่งการขับขี่ได้ ทั้งการปรับเบาะนั่งให้เป็นแบบ ‘สูงขึ้นและเยื้องไปด้านหน้า’ หรือ ‘ต่ำลงและเยื้องไปข้างหลัง’ เพื่อให้ผู้ขับขี่ทุกสรีระสามารถควบคุมรถได้อย่างถนัดและได้รับความสะดวกสบายสูงสุด ในส่วนของหน้าจอเรือนไมล์ก็สามารถปรับได้เช่นกัน เพื่อให้เข้ากับตำแหน่งการขับขี่ที่เปลี่ยนไป
อีกหนึ่งวิวัฒนาการที่สำคัญของ “บอนเนวิลล์ บอบเบอร์” (Bonneville Bobber) คือ สไตล์การตกแต่งและเก็บรายละเอียดดำสนิทแบบใหม่ ด้วยฝาครอบท่อเครื่องยนต์ ฝาครอบลูกเบี้ยว และฝาครอบสเตอร์เคลือบสีฝุ่นสีดำแบบใหม่ ให้รูปลักษณ์ที่ดูดุดันยิ่งขึ้น พร้อมหน้าจอเรือนไมล์ที่ถูกออกแบบขึ้นใหม่เช่นเดียวกัน ด้วยกรอบหน้าจอแบบใหม่ ซึ่งตกแต่งด้วยสีเมทัลลิคและโลโก้ Bonneville รวมถึงหน้าปัดทรงนาฬิกาแบบใหม่ พร้อมสัญลักษณ์สีเงินโปร่งแสง นอกจากนี้ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกตกแต่ง “บอนเนวิลล์ บอบเบอร์” (Bonneville Bobber) ใหม่ให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยอุปกรณ์เสริมแท้จากไทรอัมพ์สำหรับตกแต่งอีกกว่า 77 รายการ
มร.มาร์เซโล กล่าวเพิ่มว่า ในขณะที่ รถจักรยานยนต์ที่มีภาพลักษณ์คัสตอมสสุดคลาสสิกอีกรุ่นอย่าง “บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์” (Bonneville Speedmaster) มาพร้อมขุมพลังที่เป็นหัวใจสำคัญของสปีดมาสเตอร์ ได้แก่ เครื่องยนต์สูบคู่แรงบิดสูง ขนาด 1,200 ซีซี ได้รับการพัฒนาให้มีการตอบสนองและสัมผัสที่รวดเร็วทันใจยิ่งขึ้น มอบแรงบิดสูงสุดที่ 106 นิวตันเมตร ที่รอบต่ำเพียง 3,850 รอบต่อนาที โดยจะสามารถใช้งานแรงบิดได้ถึง 90% ยาวไปจนถึง 5,750 รอบต่อนาที ทำให้สปีดมาสเตอร์ (Speedmaster) เป็นรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่ได้อย่างเร้าใจในทุกเกียร์ ด้วยกำลังสูงสุด 78 แรงม้า ที่ 6,100 รอบต่อนาที รถจักรยานยนต์รุ่นนี้ยังมาพร้อมคันเร่งไฟฟ้าสุดล้ำสมัย ช่วยให้ผู้ขับขี่มั่นใจว่าสามารถควบคุมรถได้อย่างแม่นยำ และโหมดการขับขี่สองแบบ ซึ่งได้แก่ ‘Road’ และ ‘Rain’ “บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์” (Bonneville Speedmaster) รุ่นใหม่นี้ มาพร้อมโช้คหน้า Showa ขนาด 47 มม. ที่ใหญ่ขึ้นและสเปคสูงขึ้น ทำงานร่วมกับระบบกันสะเทือนหลังแบบ monoshock ที่รองรับการปรับตั้งค่าพรีโหลด และซ่อนการติดตั้งไว้อย่างแนบเนียน เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้รับความคล่องตัว ความสะดวกสบาย และการควบคุมที่ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะขี่คนเดียวหรือมีผู้โดยสารนั่งซ้อน ในขณะที่รถจักรยานยนต์รุ่นนี้ให้สมรรถนะการหยุดรถที่ยอดเยี่ยม ด้วยเบรก Brembo สมรรถนะสูงที่ติดตั้งมาพร้อมจานเบรกคู่ เพื่อความปลอดภัยและการควบคุมระดับสูงสุด พร้อมด้วย ABS และระบบควบคุมการยึดเกาะถนนแบบเปิด-ปิดได้รุ่นล่าสุดของไทรอัมพ์ที่ติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
“บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์” (Bonneville Speedmaster) มาพร้อมคุณสมบัติการบังคับรถที่คล่องตัว และใช้งานง่าย รวมถึงตำแหน่งการขับขี่ที่ผ่อนคลายและสะดวกสบาย โดยเบาะนั่งมีความสูงต่ำเพียง 705 มม. เท่านั้น รถคันนี้จึงเป็นหนึ่งในรุ่นที่ใช้งานได้สะดวกที่สุดของไทรอัมพ์ สำหรับความพิเศษของการปรับปรุงในปี 2021 ได้มีการติดตั้งเบาะนั่งคู่เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เบาะนั่งของผู้ขับขี่จะมีส่วนหนุนหลังแยกต่างหาก และใช้โครงสร้างแบบดีพโฟมทรงพิเศษ ในขณะที่เบาะนั่งผู้โดยสาร จะใช้โฟมที่หนากว่ารุ่นก่อนหน้า 11 มม. โดยผู้ขับขี่สามารถสลับโครงสร้างเบาะนั่งระหว่างนั่งสองคนและคนเดียวได้อย่างง่ายดาย เพื่อปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของรถจักรยานยนต์ให้ตรงตามสไตล์ของคุณ และยังรองรับการติดตั้งอุปกรณ์เสริมแร็คท้ายรถอีกด้วย
ในด้านสไตล์การตกแต่งของ “บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์” (Bonneville Speedmaster) ยังคงไว้ซึ่งแก่นแท้ของภาพลักษณ์และ DNA แบบบอนเนวิลล์ แต่ก็ยังมาพร้อมกับความสวยงามและต้นแบบสไตล์คัสตอม cruiser โดยตัวถังมาในสไตล์มินิมอล พร้อมการเก็บรายละเอียดที่คงไว้ซึ่งภาพลักษณ์ต้นแบบของสปีดมาสเตอร์ เช่น ช่องเสียบกุญแจสตาร์ทรถด้านข้าง ดุมล้อหลังแบบคลาสสิกที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก “ดรัมเบรก” กล่องแบตเตอรี่พร้อมสายรัดสแตนเลสสไตล์ดั้งเดิม และในรุ่นปี 2021 หน้าจอเรือนไมล์มาพร้อมกรอบแบบใหม่ ที่มาพร้อมโลโก้ Bonneville และเรือนหน้าปัดแบบใหม่ ผู้ขับขี่สามารถควบคุมจอแสดงผล LCD ได้ผ่านปุ่มบังคับบนแฮนด์ที่ใช้งานได้ง่ายและสะดวก นอกจากนี้ รถจักรยานยนต์ “บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์” (Bonneville Speedmaster) ยังคงเป็นรถจักรยานยนต์ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการแต่งคัสตอม โดยมีอุปกรณ์เสริมแท้จากไทรอัมพ์ ให้เลือกถึง 79 รายการ
ทั้งนี้ รถจักรยานยนต์ “บอนเนวิลล์ บอบเบอร์” (Bonneville Bobber) มาพร้อมสามตัวเลือกสีสุดโดดเด่น เริ่มจากสีใหม่ ได้แก่ Matt Storm grey กับ Matt Ironstone และ Cordovan Red รวมถึงยังคงมีตัวเลือกสีคลาสสิกอย่าง Jet Black เช่นกัน ราคาอย่างเป็นทางการ 593,000 บาท ในขณะที่ “บอนเนวิลล์ สปีดมาสเตอร์”
(Bonneville Speedmaster) มีสามตัวเลือกสีที่ล้วนดูดีมีสไตล์ ได้แก่ สี jet black สีใหม่ Fusion White และ Sapphire Black ที่มาพร้อมเส้นตัดขอบสองสีวาดด้วยมือ และอีกตัวเลือกสีใหม่สุดโดดเด่นคือ สี Red Hopper ราคาอย่างเป็นทางการ 593,000 บาท มร.มาร์เซโล กล่าวสรุป
ผู้สนใจรถจักรยานยนต์ทั้ง 2 รุ่น รวมถึงรถจักรยานยนต์ไทรอัมพ์รุ่นอื่น ๆ สามารถติดต่อโชว์รูมผู้แทนจำหน่ายไทรอัมพ์ทั้ง 13 แห่ง หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ www.triumphmotorcycles.co.th หรือ www.facebook.com/TriumphMotorcyclesThailand