พบยนตรกรรมไฟฟ้าใหม่ล่าสุดจาก Lexus Electrified และสัมผัสยนตรกรรมหรูหลากลหลายรุ่น พร้อมบริการเหนือระดับ “Omotenashi” ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ เลกซัสกรุ๊ป บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงข่าวเปิดบูทเลกซัส ภายใต้แนวคิด “A NEW ELECTRIFIED ERA BEGINS” ผ่านการนำเสนอเทคโนโลยีอันล้ำสมัย นำโดยสุดยอดรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีที่สุด และใหม่ล่าสุดจาก Lexus Electrified อย่าง The New All-Electric Lexus RZ (อาร์-ซี) รถยนต์ไฟฟ้า 100 % ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง โดดเด่นด้วยดีไซน์ ที่เป็นเอกลักษณ์ เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก พบกับยนตรกรรมระดับหรูของเลกซัสหลากหลายรุ่น และข้อเสนอสุดพิเศษ รวมทั้งการดูแล และบริการลูกค้าอย่างเหนือระดับแบบวัฒนธรรมญี่ปุ่น “Omotenashi” ในงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 44 ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี
นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า “ในปีนี้ ถือเป็นโอกาศพิเศษ ของเลกซัสประเทศไทยที่ได้ร่วมเดินทางกับคนไทยครบ 30 ปี ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ที่ผ่านมาทุกท่านจะได้รับประสบการณ์ที่ประทับใจ ทั้งตัวผลิตภัณฑ์ การบริการ และกิจกรรมต่างๆ นับตั้งแต่ที่เลกซัสได้ทำการตลาดมา เรามุ่งเน้นเรื่องของการพัฒนารถพลังงานทางเลือกมาโดยตลอด ตั้งแต่การแนะนำ SUV หรู ที่เป็นระบบไฮบริดอย่าง “RX 400h” ครั้งแรกในปี 2005 ภายใต้วิสัยทัศน์ “Lexus Electrified” เพื่อตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่าง เลกซัสได้มีการนำเสนอตัวเลือกพลังงานขับเคลื่อนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ระบบไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า 100% ซึ่งเรามีเป้าหมายที่จะแนะนำรถไฟฟ้าทุกประเภทภายในปี 2030 และมีเป้าหมายการขายรถยนต์ไฟฟ้า 100% ทั่วโลกภายในปี 2035 เพื่อมุ่งสู่องค์กรที่เป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2050 ในปัจจุบันรถยนต์ LEXUS Electrified มียอดขายทั่วโลก กว่า 2 ล้านคัน ซึ่งสามารถช่วยลดการปล่อย CO2 กว่า 19 ล้านตัน ทั่วโลก”
“บูทเลกซัสในปีนี้ จึงได้ถูกนำเสนอผ่านแนวคิด “A New Electrified Era Begins” เริ่มต้นยุคใหม่ของยานยนต์ไฟฟ้าไปพร้อมกับเลกซัส ผ่านการนำเสนอรถยนต์พลังงานทางเลือกครบทุกรูปแบบ อย่างรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดรุ่นใหม่ล่าสุดจาก LEXUS RX 450h+ และ LEXUS UX Compact crossover ที่มอบความสะดวกสบายทุกการใช้งาน ผสมผสานการขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ระบบไฮบริด และระบบไฟฟ้า 100% สำหรับรถยนต์ประเภทซีดาน เราได้จัดแสดงทั้งในรุ่น Masterpiece ความสบายระดับเฟิร์สคลาสอย่าง LS 500h และ ES 300h ตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริหาร และ IS 300h สปอร์ตซีดานหรู ขับขี่เร้าใจ”
นายศุภกร กล่าวเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในงานนี้ว่า “ในวันนี้ผมขอแนะนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุดกับ The New All-Electric Lexus RZ (อาร์-ซี) ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง แต่ยังคงความสุนทรีย์ ในแบบเฉพาะตัวของเลกซัสไว้อย่างครบถ้วน พิสูจน์ได้จากหนึ่งในคุณสมบัติพื้นฐานของรถยนต์เลกซัสทุกคัน นั่นคือ Lexus Driving Signature หรือประสบการณ์การขับขี่อันเป็นเอกลักษณ์ของเลกซัส โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก และผมขอแนะนำการจองผ่านช่องทางออนไลน์ใน 21 มีนาคม 2566 เวลา 15:00 น.ซึ่งสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า 10 ท่านแรกที่จองผ่านช่องทางนี้ จะได้รับของที่ระลึก และจะเป็น 10 คนแรกที่ได้รับรถ RZ ในประเทศไทย”
สุดยอดรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีที่สุดและใหม่ล่าสุดจาก Lexus Electrified
The New All-Electric Lexus RZ รถยนต์ไฟฟ้า 100 %
รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด กับ The New All-Electric Lexus RZ (อาร์-ซี) ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง แต่ยังคงความสุนทรีย์ ในแบบเฉพาะตัวของเลกซัสไว้อย่างครบถ้วน พิสูจน์ได้จากหนึ่งในคุณสมบัติพื้นฐานของรถยนต์เลกซัสทุกคัน นั่นคือ Lexus Driving Signature หรือประสบการณ์การขับขี่ อันเป็นเอกลักษณ์ของเลกซัส ซึ่งเป็นผลมาจากเทคโนโลยีโครงสร้างตัวถังแบบ e-TNGA ที่เลกซัสพัฒนาขึ้น อย่างประณีต รวมถึงการวางตำแหน่งแบตเตอรีไฟฟ้าที่เหมาะสม ทำให้ได้จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำประกอบกับ DIRECT4 AWD ใน LEXUS RZ (อาร์-ซี) ที่ช่วยกระจายแรงขับให้ล้อหน้า และล้อหลัง ตามสภาวะการขับขี่ ทำให้สามารถตอบสนองอย่างเฉียบคมทุกการสั่งการ มอบความเพลิดเพลิน ราบรื่นในทุกการขับขี่ ทั้งขณะเหยียบคันเร่ง บังคับพวงมาลัย และลดความเร็ว ทุกท่านจะได้รับความรู้สึกที่พิเศษ เมื่อได้ขับ LEXUS RZ นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยดีไซน์ ที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยแนวคิดในการออกแบบ "Seamless E-Motion" สะท้อนความพริ้วไหว ในแบบของรถยนต์ไฟฟ้า และกระจังด้านหน้าที่ถูกตีความใหม่ภายใต้แนวคิดแบบ Spindle Body ผสมผสานศิลปะการออกแบบเข้ากับเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัยจนได้ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สำหรับดีไซน์ด้านหลังเน้นความเรียบง่าย แต่โดดเด่นด้วยเส้นไฟ LED ที่ลากยาวดูเฉียบคม ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความรู้สึกเชื่อมต่อกับธรรมชาติ มาพร้อมกับหลังคากระจกพาโนรามาพร้อมฟังก์ชันปรับลดแสงอัจฉริยะ ช่วยให้ภายในห้องโดยสารดูโอ่โถง โปร่งสบาย และคอนโซลด้านหน้าออกแบบภายใต้แนวคิด TAZUNA COCKPIT ที่เน้นให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลาง ใช้ได้งานอย่างเป็นธรรมชาติ ควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย LEXUS RZ ยังเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลกอย่าง LEXUS Safety System Plus เช่น ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะที่ช่วยให้ผู้ขับสะดวกยิ่งขึ้น และระบบป้องกันการเปิดประตูเมื่อมีรถวิ่งสวนมา Safe Exit Assist และการเลือกใช้วัสดุหุ้มเบาะ Ultra-suede ที่ผลิตจากพืช (Bio-based sustainable material) เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้ผิวสัมผัสที่หรูหราคล้ายกับหนังกลับคุณภาพสูง ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ให้สมรรนะที่ทรงพลัง พร้อมระยะทางการขับที่เพียงพอต่อการใช้งานจริงด้วยแบตเตอรี่ 71.4 กิโลวัตต์ ชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรงถึง 80% ภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง ให้กำลังรวมทั้งระบบ 308 แรงม้า มีอัตราเร่ง 0-100 กม/ชม ภายใน 5.3 วินาทีเท่านั้น พร้อมการรับประกัน แบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร
เป็นเจ้าของ The New All-Electric Lexus RZ วันนี้
มั่นใจสูงสุดด้วยการรับประกันแบตเตอรี่ EV นานถึง 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร
รวมถึงรับแพ็คเกจ LEXUS EXCLUSIVE PACKAGE STANDARD ที่จะขยายรับประกันตัวรถเพิ่มเป็น 5 ปี ไม่จำกัดระยะทางพร้อมฟรีค่าแรงเช็กระยะถึง 100,000 กิโลเมตร
และบริการเลขาส่วนตัวและช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 5 ปี (ตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด)
ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) The New All-Electric Lexus RZ 450e
- เกรด Luxury 3,870,000 บาท
- เกรด Premium 4,190,000 บาท
รถที่จัดแสดงภายในงาน
The All-New RX 450h+ PHEV... “CHARGE THROUGH THE LIMITS OF IMAGINATION” “เหนือขีดจำกัดแห่งจินตนาการ” รถยอดเยี่ยมแห่งปี “Car of The Year 2023”
LEXUS RX ครอสโอเวอร์หรูรุ่นยอดนิยมที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลกมาตลอดระยะเวลากว่า 24 ปี ในประวัติศาสตร์ของแบรนด์เลกซัส พิสูจน์ได้จากยอดขายทั่วโลกกว่า 3.5 ล้านคัน ด้วยไฟหน้า และกระจังหน้า Spindle Grille ดีไซน์ใหม่ เส้นสายตัวรถไร้รอยต่อ Spindle body นำเสนอเอกลักษณ์ใหม่ของเลกซัส เชื่อมไฟท้ายแบบ L-Shaped Light Bar เข้าไว้ด้วยกันให้ความรู้สึกถึงสมรรถนะ อันทรงพลัง ภายในประณีต พิถีพิถันในทุกการออกแบบ คงความโดดเด่นของ RX ที่เงียบ และพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางขึ้นกว่าเดิม เลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงที่ให้การสัมผัสที่หรูหรา (Semi-Aniline Leather) และเพิ่มมุมมองใหม่ให้กับห้องโดยสารด้วยหลังคากระจกพาโนรามา (Panorama Glass Roof) ภายในออกแบบภายใต้ปรัชญา“Human Centric” มุ่งเน้นคนขับเป็นจุดศูนย์กลางในการควบคุมรถ ตามหลักการดีไซน์แบบ TAZUNA ที่สร้างบรรยากาศโอบล้อมผู้ขับขี่ให้สามารถควบคุมทุกอย่าง โดยแทบไม่ต้องละสายตา และรู้สึกเป็นอันหนึ่ง อันเดียวกับตัวรถ นอกจากนี้ LEXUS RX ใหม่ มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังแบบ GA-K (Global Architecture-K Platform) ทำให้ตัวรถมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น และกว้างขึ้น มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำพร้อมกับระบบช่วงล่างด้านหลังแบบ Multi-Link และ Adaptive Variable Suspension ที่สามารถปรับระดับเองอัตโนมัติแบบเรียลไทม์ ส่งผลให้เลกซัส RX ใหม่ ให้การทรงตัว และเกาะถนนดีเยี่ยม พวงมาลัย และคันเร่งตอบสนองได้ดั่งใจ ภายในห้องโดยสารนิ่ง และเงียบ ตอกย้ำปรัชญา LEXUS Driving Signature ซึ่งเป็น LEXUS DNA ได้เป็นอย่างดี
LEXUS RX ใหม่ ตอบสนองการใช้งานในแบบรถครอสโอเวอร์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบายครบครัน และปลอดภัยเหนือระดับ
- หน้าจอ Head-up Display สั่งการได้จากสวิตซ์แบบสัมผัสบนพวงมาลัย
- หน้าจอขนาดใหญ่ 14 นิ้วพร้อม Apple CarPlay แบบไร้สาย ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ได้อย่างสะดวก และง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส
- ระบบ Lexus Climate Concierge ปรับอุณหภูมิแยกอิสระอัตโนมัติ
- ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ Lexus Teammate Advanced Park ที่สามารถนำรถเข้าช่องจอด และจอดแบบขนานได้เอง
- ระบบ LEXUS SAFETY SYSTEM PLUS (LSS+)
- ระบบกลอนประตูอิเล็กทรอนิกส์ E-LATCH ที่มาพร้อมกับระบบ Safe Exit Assist (SEA) ช่วยป้องกันการเปิดประตูในขณะที่มีรถวิ่งเข้ามา เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
เป็นเจ้าของ The All-New RX 450h+ PHEV วันนี้ มั่นใจสูงสุดด้วยการรับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไฮบริด นานถึง 10 ปี ไม่จำกัดระยะทาง การรันตีดัวยรางวัล “BEST HYBRID SUV UNDER 2,500 CC”
ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) The All-New RX 450h+
- เกรด Luxury AWD 4,640,000 บาท
- เกรด Premium AWD 5,090,000 บาท
ALL-ELECTRIC LEXUS UX 300e
ยนตรกรรมรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรก ภายใต้แบรนด์ “LEXUS ELECTRIFIED”
LEXUS UX 300e (Urban Crossover) ยนตรกรรมรถยนต์ไฟฟ้า 100% หรือ PURE-EV ที่ไม่มีเครื่องยนต์ และไม่ใช้น้ำมัน ไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ มาพร้อมกับสถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังแบบใหม่ GA-C ที่เชื่อมต่อตัวถังด้วยระบบเลเซอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของเลกซัส และใช้อลูมินัมเข้ามาเป็นองค์ประกอบของตัวรถ ส่งผลให้ตัวถังมีน้ำหนักเบา และแข็งแกร่ง จุดศูนย์ถ่วงต่ำ การทรงตัวดีเยี่ยม ควบคุมรถได้ดั่งใจ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าให้พละกำลังสูงสุดถึง 150 กิโลวัตต์ หรือ 201 แรงม้า ผสานกับแบตเตอรี่แบบลีเทียม ไอออน ให้อัตราเร่งได้ดั่งใจ 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 7.5 วินาที ใช้แบตเตอรี่ความจุสูง 54 กิโลวัตต์-ชั่วโมง สามารถขับขี่ได้ไกลถึง 360 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ด้านการออกแบบให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่ และผู้โดยสารเป็นหลัก ครบครันด้วยฟังก์ชันการใช้งานล้ำสมัย ให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมในการขับขี่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เป็นเจ้าของ LEXUS UX 300e วันนี้
รับประกันแบตเตอรี่นานถึง 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร
ราคา(รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) 3,490,000 บาท
LEXUS UX 250h “The Urban Disruptor” Luxury compact crossover” ตอบโจทย์ชีวิตเมือง
LEXUS UX 250h ยนตรกรรม Luxury compact crossover สุดหรู โดดเด่นด้วยการออกเเบบภายนอกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เส้นสายที่เฉียบคมให้ความรู้สึกปราดเปรียว เร้าใจ พร้อมสีภายนอกใหม่ Sonic Iridium และ Feature ทันสมัยใหม่ล่าสุด ด้วยหน้าจอ Touch Screen ขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ที่รองรับระบบ Apple CarPlay แบบไร้สาย และช่อง USB-C 2 จุดบริเวณด้านหน้า เพื่อความสะดวกสบายในทุกการเดินทาง ตอบรับทุก Lifestyle คนเมืองยุคใหม่ได้ดียิ่งขึ้น มาพร้อมกับเครื่องยนต์ระบบไฮบริด 2.0 ลิตร มอบสมรรถนะที่ทรงพลังพร้อมกับประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่ยอดเยี่ยม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประสานสมรรถนะกับสถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังแบบ GA-C (Global Architecture-Compact Platform) ที่มีการใช้ Aluminum เข้ามาเป็นองค์ประกอบของตัวรถ ส่งผลให้ได้ตัวถังที่มีน้ำหนักเบา และแข็งแกร่ง จุดศูนย์ถ่วงต่ำ มีการทรงตัวดีเยี่ยม เสริมประสิทธิภาพการควบคุม และให้ความสะดวกสบายอย่างเหนือระดับ
พิเศษสุดภายในงาน รับดอกเบี้ย 0% เมื่อดาวน์ 30% และผ่อนชำระ 48 เดือน พร้อมรับ LEXUS
EXCLUSIVE PACKAGE STANDARD และประกันภัยชั้น 1 (ตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด)
ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) UX250h
- เกรด Luxury 2,540,000 บาท
- เกรด Grand Luxury 2,740,000 บาท
- เกรด F SPORT 3,670,000 บาท
LEXUS ES “Refine Your Journey” สุนทรียภาพใหม่แห่งการเดินทาง
LEXUS ES (Executive Sedan) ยนตรกรรมซีดานหรูขนาดกลาง ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากความโดดเด่นเรื่องความนุ่มนวลในการขับขี่ และความเงียบภายในห้องโดยสารที่เป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของเลกซัส ประณีตพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ควบคู่กับความกว้างขวางของที่นั่งด้านหลังแตกต่างจากรถยนต์หรูทั่วไป จากความนิยมดังกล่าวทำให้ LEXUS ES เดินทางมาสู่เจเนอเรชั่นที่ 7 ด้วยยอดขายสะสมทั่วโลกมากถึง 2.65 ล้านคัน มาพร้อมกับไฟหน้าดีไซน์ใหม่รับกับกระจังหน้า Spindle Grille ดีไซน์ใหม่ เส้นสายที่ดูสปอร์ตเร้าใจ เสริมความเฉียบคมให้เข้ากับความหรูหราอย่างลงตัว ไฟหน้าแบบ 3-eye LED Headlamps มาพร้อมกับเทคโนโลยี Blade Scan Adaptive High-beam System ที่จะทำหน้าที่ปรับไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะ ช่วยกระจายแสงไฟด้านหน้ารถได้อย่างแม่นยำ และละเอียดมากยิ่งขึ้น หน้าจอขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ได้อย่างสะดวก และง่ายดายเพียงปลายนิ้วสัมผัส ตอกย้ำสมรรถนะอันทรงพลังด้วยสถาปัตยกรรมโครงสร้างตัวถังใหม่ GA-K (Global Architecture-K Platform) ที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทรงตัวเยี่ยม และควบคุมได้ดั่งใจ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ระบบไฮบริดเจเนอเรชั่นล่าสุด มั่นใจตลอดการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยเหนือระดับ ด้วยระบบ LEXUS SAFETY SYSTEM PLUS (LSS+) เจเนอเรชันที่ 2 และระบบช่วยเบรกอัตโนมัติขณะถอยจอด (Parking Support Brake : PKSB) เพิ่มความปลอดภัยขณะถอยจอด โดยระบบจะทำการเบรกอัตโนมัติทันที หากระบบประเมินว่าอาจเกิดการชน
พิเศษสุดภายในงาน รับฟรี LEXUS EXCLUSIVE PACKAGE STANDARD (ตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด)
ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ES 300h
- เกรด Luxury 3,625,000 บาท
- เกรด Grand Luxury 3,795,000 บาท
- เกรด Premium 4,210,000 บาท
- เกรด F SPORT 4,380,000 บาท
LEXUS IS 300h สุดยอดสปอร์ตซีดานหรูกับเอกลักษณ์การขับขี่ LEXUS Driving Signature
LEXUS IS 300h รถสปอร์ตซีดานหรูเหนือระดับที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าทั่วโลก โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว สปอร์ต และสมรรถนะที่ทรงพลัง เกาะถนนดีเยี่ยม ตอบสนองการควบคุมได้ดั่งใจ อัตราเร่งออกตัวที่ดี ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดของสมรรถนะการขับขี่ในรูปแบบเดิม ภายใต้การพัฒนาด้วยการใช้ถนนออกแบบรถ และทดสอบในสนามแข่ง Shimoyama ประเทศญี่ปุ่น ที่สร้างขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากสนามแข่งสุดโหดระดับโลก Nurburgring ประเทศเยอรมัน เต็มเปี่ยมด้วยพละกำลัง พร้อมโครงสร้างตัวถังรถยนต์ที่ออกแบบมาอย่างยอดเยี่ยม โดยคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุก เร้าใจ ให้กับผู้ขับขี่ได้ ดีไซน์ภายนอกออกแบบด้วยเส้นสายที่เฉียบคม โฉบเฉี่ยว ดุดัน กว้างขวาง และยาวขึ้น พร้อมล้อขนาดใหญ่ขึ้น ช่วยการเกาะถนนดีเยี่ยม บ่งบอกถึงความเป็นสปอร์ตซีดานได้เป็นอย่างดี ราคาเริ่มต้นเพียง 2.69 ล้านบาท
พิเศษสุดภายในงาน รับดอกเบี้ย 0% เมื่อดาวน์ 30% และผ่อนชำระ 48 เดือน พร้อมรับ LEXUS EXCLUSIVE PACKAGE STANDARD และประกันภัยชั้น 1 (ตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด)
ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) IS300h
- เกรด Luxury 2,690,000 บาท
- เกรด Premium 3,370,000 บาท
- เกรด F SPORT 3,890,000 บาท
LEXUS LS…ยนตรกรรมหรูระดับเฟิร์สคลาส
Lexus LS ยนตรกรรมรุ่นเรือธง(Flagship) ของเลกซัส ที่สะท้อนปรัชญาเรื่อง “Craftsmanship” ได้เป็นอย่างดีในทุกๆ รายละเอียด ภายใต้คุณภาพแห่งวิศวกรรมการผลิตระดับโลก แสดงถึงตัวตนของเลกซัส และเอกลักษณ์ของความเป็นญี่ปุ่น ที่มีมาตรฐานเหนือความคาดหมายเพื่อลูกค้าอย่างแท้จริง โดยได้นำเทคโนโลยีโฟม ยูรีเทนมาใช้ในเบาะที่นั่ง เพื่อช่วยดูดซับแรงกระแทก พร้อมระบบช่วงล่าง “Adaptive Variable Suspension” สามารถตรวจสภาพถนนได้ละเอียดถึง 650 ระดับ ช่วยให้ความนุ่มนวลมากขึ้น เพิ่มความสุนทรีย์ระดับ First Class ในทุกการเดินทาง ภายในเน้นความความปราณีต พิถีพิถันและใส่ใจในทุกรายละเอียดจากช่างฝีมือชั้นครู ‘ทาคูมิ’ (Takumi craftsmanship) โดยวัสดุตกแต่งข้างประตูทำจากผ้าพลีททำมือ ประกอบกับแก้วเจียระไน สไตล์คิริโกะคัต ศิลปะจากยุคสมัยเอโดะ รวมถึงการออกแบบที่ยึดผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลาง หน้าจอ EMV DISPLAY (Electro Multi Vision) ขนาด12.3 นิ้ว ใช้งานง่าย ดีไซน์ภายนอกไฟหน้าใหม่แบบ “New Slim 3-EYE” และระบบมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก “Lexus Safety System Plus” เจเนอเรชั่นล่าสุด มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด “BladeScan Adaptive High-beam System” เทคโนโลยีปรับไฟสูง-ต่ำอัจฉริยะที่ช่วยกระจายแสงไฟด้านหน้ารถอย่างแม่นยำพร้อมเป็นเจ้าของ Lexus LS
ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- LS350 เกรด Luxury 11,750,000 บาท
- LS500 เกรด Executive 13,310,000 บาท
- LS500h เกรด Executive 14,730,000 บาท
เกรด Executive Pleat 15,990,000 บาท
สัมผัสประสบการณ์ในการครอบครองยนตรกรรมเลกซัสรูปแบบใหม่
กับบริการ KINTO ONE และ KINTO Experience “The First Step to Experience Amazing”
บริการ “Lexus KINTO ONE”
ทางเลือกใหม่ของการใช้รถจาก “โตโยต้า ลีสซิ่ง” เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์ลูกค้าคนรุ่นใหม่ สำหรับลูกค้าบุคคลซึ่งมีทั้งแบบสัญญาระยะสั้น 1 ปี ระยะยาวสูงสุด 5 ปี ที่ทำให้การใช้รถเป็นเรื่องง่าย สะดวกสบาย คุ้มค่า ไร้กังวล มอบความสะดวกสบายด้วยค่าบริการครอบคลุมค่าใช้จ่าย ทั้งในการบำรุงรักษา ประกันภัยชั้น 1 มีรถทดแทนระหว่างซ่อม มีบริการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง และหมดกังวลเรื่องราคาขายต่อเพียงคืนรถเมื่อครบสัญญา
รุ่นที่มีบริการ KINTO ONE
- RZ เกรด Premium ค่าบริการเริ่มต้น 69,990 บาท
- ES เกรด Grand Luxury ค่าบริการเริ่มต้น 60,890 บาท
- IS เกรด Luxury ค่าบริการเริ่มต้น 43,000 บาท
- UX เกรด Grand Luxury ค่าบริการเริ่มต้น 46,100 บาท
สนใจสอบถามได้ที่ เจ้าหน้าที่ภายในบูทเลกซัส ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44
หรือ www.kinto-th.com และ Kinto Call Center 02-386-3888
“The Pride of Lexus Ownership” ข้อมูลด้านบริการหลังการขาย
เพื่อเพิ่มความมั่นใจสูงสุดให้กับลูกค้าคนสำคัญ ตลอดการครอบครองรถเลกซัส ในปีนี้เราได้จัดบูทประชาสัมพันธ์การบริการของเลกซัส โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านบริการ หรือ Lexus Service Guru ที่จะแนะนำข้อมูล และตอบทุกข้อสงสัย อาทิ ข้อมูลด้านค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถเลกซัสแต่ละรุ่นที่เป็นมาตรฐาน และคุ้มค่า ไร้กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายจุกจิก ข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพรถเลกซัส ซึ่งโดดเด่นเป็นที่ยอมรับ ทั่วโลก ทั้งด้านคุณภาพ ความทนทาน และความน่าเชื่อถือ มั่นใจได้ว่ายนตรกรรมเลกซัสเปี่ยมด้วยคุณภาพไร้ปัญหาจุกจิก ตลอดจนข้อมูลเครือข่ายการให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศกับ Service Corner 15 แห่งในจังหวัด 8 จังหวัดใหญ่ พร้อมบริการ Home Visit Mobility Service โดยส่งช่างผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนเครื่องมือพร้อมอะไหล่แท้ของเลกซัส เพื่อมอบบริการสำหรับท่านลูกค้าทั่วประเทศอีกด้วย
บริการพิเศษ เลกซัส Pre-owned ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการขายรถ
หรือผู้ที่มองหา LEXUS Pre-Owned ที่วางใจได้
เพื่อมอบความมั่นใจ และความสะดวกสบาย ให้กับผู้ครอบครองยนตรกรรมของเลกซัส ที่ต้องการขายหรือแลกเปลี่ยนรถ ตลอดจน ผู้ที่สนใจและกำลังมองหารถเลกซัส Pre-Owned ด้วยบริการสุดเอกซ์คลูซีฟภายในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชมได้ ในโซน Pre-owned corner
พิเศษสุด สำหรับท่านที่จอง LEXUS รุ่นที่ร่วมรายการภายในงาน และรับรถภายในระยะเวลาที่กำหนด (เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด)
- รับ LEXUS 30 YEARS ANNIVERSARRY GIFT SET (สำหรับการจองรุ่น LS ES IS UX UX 300e และ RZ 450e)
- สำหรับรุ่นที่ร่วมรายการ รับ “LEXUS EXCLUSIVE PACKAGE STANDARD” โปรแกรมขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ LEXUS เป็น 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง บริการเลขาส่วนตัว ฟรีค่าแรงและอะไหล่ในการบำรุงรักษาตลอด 5 ปี
โดย LEXUS EXCLUSIVE PACKAGE ได้ออกแบบประเภทโปรแกรมที่หลากหลายเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ และช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว
- STANDARD ครอบคลุมค่าแรงตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
- PLUS ครอบคลุมการบำรุงรักษารถยนต์ทั้งค่าแรง และค่าอะไหล่ตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (ยกเว้นอะไหล่เสื่อมสภาพ)
- PREMIUM ครอบคลุมการบำรุงรักษารถยนต์ทั้งค่าแรง และค่าอะไหล่ตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร รวมอะไหล่เสื่อมสภาพ
กับเอกสิทธ์เฉพาะเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ชีวิตที่เหนือกว่า
สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์เลกซัสทุกรุ่น จากผู้แทนจำหน่ายเลกซัสอย่างเป็นทางการ
- รับสิทธิ์เป็นสมาชิกแอปพลิเคชัน LEXUS Elite Club เพื่ออำนวยความสะดวกตลอดการใช้รถเลกซัส เช่น การแจ้งเตือน และนัดหมายนำรถเข้าศูนย์บริการ ทั้งร่วมรับสิทธิพิเศษจากร้านค้าชั้นนำมากมาย
- สะดวก ครอบคลุมทุกพื้นที่ กับ LEXUS Service Corner ในศูนย์บริการโตโยต้าที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการด้วยมาตรฐานเลกซัส ทั้ง 15 แห่ง ใน 8 จังหวัด สำหรับพื้นที่นอกเหนือจากการบริการของ LEXUS Service Corner เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เรามีบริการ LEXUS Home Visit Mobility Unit ที่จะส่งช่างที่มีความรู้ และความชำนาญไปดูแลลูกค้าถึงที่ครอบคลุมครบทุกจังหวัด ทั่วประเทศไทย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ผู้แทนจำหน่ายเลกซัสอย่างเป็นทางการ
นายศุภกร รัตนวราหะ กล่าวในการแถลงข่าวเปิดตัวรถรุ่นใหม่ว่า “นับตั้งแต่ที่เลกซัส ได้ทำการตลาดมา เรามุ่งเน้นในเรื่องของการพัฒนารถพลังงานทางเลือกมาโดยตลอด ตั้งแต่การแนะนำ SUV หรู ที่เป็นระบบไฮบริดอย่าง “RX 400h” ครั้งแรกในปี 2005 ภายใต้ วิสัยทัศน์ “Lexus Electrified” เพื่อตอบสนอง รูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่าง เลกซัสได้มีการนำเสนอตัวเลือกพลังงานขับเคลื่อนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ระบบไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า 100% ซึ่งเรามีเป้าหมาย ที่จะแนะนำรถไฟฟ้าทุกประเภท ภายในปี 2030 และมีเป้าหมาย การขายรถยนต์ไฟฟ้า 100% ทั่วโลก ภายในปี 2035 เพื่อมุ่งสู่องค์กรที่เป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2050 ในปัจจุบันรถยนต์ LEXUS Electrified มียอดขายทั่วโลก กว่า 2 ล้านคัน ซึ่งสามารถช่วยลดการปล่อย CO2 กว่า 19 ล้านตันทั่วโลก”
“ในวันนี้ ผมขอแนะนำรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด กับ The New All-Electric Lexus RZ (อาร์-ซี) ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นรถยนต์ไฟฟ้าอย่างแท้จริง แต่ยังคงความสุนทรีย์ ในแบบเฉพาะตัวของเลกซัสไว้อย่างครบถ้วน พิสูจน์ได้จากหนึ่งในคุณสมบัติพื้นฐานของรถยนต์เลกซัสทุกคัน นั่นคือ Lexus Driving Signature หรือประสบการณ์การขับขี่ อันเป็นเอกลักษณ์ของเลกซัส ซึ่งเป็นผลมาจากเทคโนโลยีโครงสร้างตัวถังแบบ e-TNGA ที่เลกซัสพัฒนาขึ้นอย่างประณีต รวมถึงการวางตำแหน่งแบตเตอรีไฟฟ้าที่เหมาะสม ทำให้ได้จุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำประกอบกับ DIRECT4 AWD ใน LEXUS RZ ที่ช่วยกระจายแรงขับให้ล้อหน้า และล้อหลัง ตามสภาวะการขับขี่ ทำให้สามารถตอบสนองอย่างเฉียบคมทุกการสั่งการ มอบความเพลิดเพลิน ราบรื่นในทุกการขับขี่ ทั้งขณะเหยียบคันเร่ง บังคับพวงมาลัย และลดความเร็ว ผมเชื่อมั่นว่าทุกท่านจะได้รับความรู้สึกที่พิเศษ เมื่อได้ขับ LEXUS RZ”
“นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยแนวคิดในการออกแบบ "Seamless E-Motion" สะท้อนความพริ้วไหว ในแบบของรถยนต์ไฟฟ้า และกระจังหน้าใหม่ภายใต้แนวคิดแบบ Spindle Body ผสมผสานศิลปะการออกแบบเข้ากับเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัยจนได้ดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดีไซน์ด้านหลังเน้นความเรียบง่ายแต่โดดเด่น เส้นไฟ LED ที่ลากยาวดูเฉียบคม ภายในห้องโดยสาร ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความรู้สึกเชื่อมต่อกับธรรมชาติ หลังคากระจกพาโนรามาพร้อมฟังก์ชันปรับลดแสงอัจฉริยะ ช่วยให้ภายในห้องโดยสารดูโอ่โถง โปร่งสบาย และคอนโซลด้านหน้าถูกออกแบบภายใต้แนวคิด TAZUNA COCKPIT ที่เน้นให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ ควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย LEXUS RZ ยังเพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย พร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลกอย่าง LEXUS Safety System Plus เช่น ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ ที่ช่วยให้ผู้ขับสะดวกยิ่งขึ้น และระบบป้องกันการเปิดประตู เมื่อมีรถวิ่งสวนมา Safe Exit Assist และการเลือกใช้วัสดุหุ้มเบาะ Ultra-suede ที่ผลิตจากพืช (Bio-based sustainable material) เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังให้ผิวสัมผัสที่หรูหรา คล้ายกับหนังกลับคุณภาพสูง ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ให้สมรรถนะที่ทรงพลังพร้อมระยะทางการขับที่เพียงพอต่อการใช้งานจริง ด้วยแบตเตอรี่ 71.4 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง ชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรงถึง 80% ภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง ให้กำลังรวมทั้งระบบ 308 แรงม้า โดยมีอัตราเร่ง 0-100 กม/ชม ภายใน 5.3 วินาทีเท่านั้น สำหรับลูกค้าที่สนใจ และพร้อมเป็นเจ้าของ LEXUS RZ ใหม่ เรามาพร้อมการรับประกัน แบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร” นายศุภกร กล่าวด้วยความภาคภูมิใจ
The New All-Electric Lexus RZ
เลกซัส เป็นผู้บุกเบิกรถยนต์ลักชัวรีครอสโอเวอร์รายแรกของโลก ตั้งแต่การเปิดตัว Lexus RX ครั้งแรกในปี 2005 และได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ด้าน สำหรับเลกซัส RZ รุ่นใหม่ ทีมวิศวกร และนักออกแบบมุ่งถ่ายทอดการขับขี่ที่เพลิดเพลินออกมาเป็นดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และมีสัดส่วนที่สะกดสายตา น่าหลงใหล และกระตุ้นให้รู้สึก มีชีวิตชีวา และเมื่อขับก็ยิ่งเพลิดเพลินกับสมรรถนะที่เร้าใจ
ดีไซน์ภายนอก เน้นสร้างเอกลักษณ์ที่ไม่ซ้ำใคร และรูปทรงที่เร้าใจตั้งแต่แรกมอง
กระจังหน้าทรง Spindle Grill ที่เป็นเอกลักษณ์ของเลกซัสมายาวนาน ถูกออกแบบใหม่ให้เป็นตัวถังแบบ Spindle Body โดยผสมผสานศิลปะการออกแบบเข้ากับเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย จนได้เป็นบังโคลนหน้ารูปทรงสามมิติที่โอบรับมาถึงกึ่งกลางตัวถังทั้งสองด้าน พร้อมโคมไฟหน้าพร้อมไฟสูง-ต่ำโปรเจกเตอร์เดี่ยวแบบ Bi-AHS (Adaptive High-beam System) ช่วยกระจายแสงได้อย่างทั่วถึง และชัดเจน พร้อมไฟเลี้ยวที่ดูลุ่มลึกและขับรูปทรงตัว L ของไฟ DRL (Daytime Running Light) พร้อมกับไฟท้ายที่ทอดตัวยาวตลอดแนวขวางเป็นเส้นเพรียวบาง เสริมความเป็น Lexus ให้ยิ่งเด่นชัด
ดีไซน์ภายใน ควบคุมง่ายได้อย่างใจกับแนวคิดแบบ TAZUNA
- แผงตกแต่งภายในรถยนต์ แผงควบคุมจัดวางในระดับต่ำไม่รบกวนสายตา และแผงคอนโซลระหว่างเบาะนั่งคู่หน้าดูเรียบง่าย โปร่งโล่งสะอาดตา พร้อมสัมผัสที่ละเมียดละไมแบบ Omotenashi ด้วยเบาะหนัง Ultrasuede* นุ่มสบาย และพื้นผิวลายไม้ประณีต
- พื้นที่ภายในห้องโดยสาร ฐานล้อที่ยาวขึ้นทำให้พื้นที่บริเวณเบาะหลังกว้างขวาง โดยมีระยะห่างระหว่างตำแหน่งนั่งด้านซ้าย และขวาถึง 39.3 นิ้ว ทรวดทรงของตัวถังที่หลังคาด้านท้ายยกขึ้นสูงช่วยเพิ่มพื้นที่เหนือศีรษะ และให้ความรู้สึกโอ่โถง เสริมด้วยหลังคาพาโนรามา* ตั้งแต่เหนือเบาะคู่หน้าไปถึงเบาะคู่หลัง ให้ความรู้สึกเปิดกว้างยิ่งขึ้น
- หน้าจอสัมผัสบริเวณกลางคอนโซล พร้อม Apple CarPlay แบบไร้สาย ขนาด 14 นิ้ว สามารถสั่งการฟังก์ชันได้หลากหลายด้วยสวิตช์ในจอ และใช้งานได้อย่างสะดวกเป็นธรรมชาติ ด้วยการออกแบบที่ละเอียดรอบคอบ ทั้งขนาด รูปทรง องศาของจอ ตำแหน่งการติดตั้ง รูปแบบการแสดงข้อมูล และความถี่ในการเรียกใช้ฟังก์ชันต่างๆ
- ตำแหน่งการนั่งขับ ภายในแนวคิดแบบ Tazuna Cockpit ความหมายของ Tazuna คือการควบคุมบังเหียนม้า เป็นการวางตำแหน่งให้ผู้ควบคุมนั่งอยู่บริเวณกึ่งกลางของทุกสิ่ง วางทุกอย่างให้โอบล้อมผู้ขับสามารถเอื้อมใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ พวงมาลัยมาพร้อมกับสวิตช์ที่เชื่อมต่อหน้าจอ Head-up Display* ทำให้ผู้ขับมีสมาธิ สามารถควบคุมการนำทาง และเสียง ไปจนถึงฟังก์ชันต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย
- หน้าจอ Head-up Display แบบสี* แสดงผลโดยฉายข้อมูลไปยังบริเวณด้านล่างของกระจกหน้ารถ เน้นแสดงข้อมูลสำคัญในการขับขี่ให้อยู่ตรงกับมุมมองของผู้ขับขณะขับรถได้อย่างพอดี โดยไม่รบกวนการมองถนน และสภาพรอบรถ พร้อมเลือกโหมดการแสดงผลได้ 3 รูปแบบ
- ปุ่มควบคุมพวงมาลัยแบบสัมผัส* ปุ่มควบคุมบนพวงมาลัยมีเซนเซอร์จับตำแหน่งของนิ้วมือว่าผู้ขับกำลังวางนิ้วมืออยู่บนปุ่มใด โดยแสดงแผนผังของปุ่ม และตำแหน่งนิ้วมือบนหน้าจอ Head-up Display เพื่อให้ผู้ขับเลือกกดปุ่มต่างๆ ได้โดยไม่ต้องก้มมองพวงมาลัย
- มาตรวัด* รายละเอียดต่างๆ บนจอถูกออกแบบมาให้อยู่ในตำแหน่งที่อ่านได้ง่ายในขณะขับขี่ ข้อมูลทั้งหมดแม่นยำเชื่อถือได้ นอกจากนั้นยังมาพร้อมจอแสดงผลระบบนำทางแบบต่อเนื่องซึ่งจะคำนวณเวลาโดยประมาณที่จะไปถึงจุดหมาย รวมทั้งบอกสถานะของระบบช่วยขับ และระยะทางในการขับขี่
- การตกแต่งด้วยมิติของแสง และเงา สวยงามอย่างแตกต่าง ด้วยการใช้แสง และเงาตกแต่งแผงประตู สร้างมิติที่แตกต่างกันขณะที่ประตูเปิด และปิด เพิ่มความรู้สึกลุ่มลึก และมอบความพิเศษให้ห้องโดยสาร
- ปุ่มควบคุมเกียร์แบบหมุน ติดตั้งอยู่บริเวณคอนโซลกลาง เปลี่ยนเกียร์ได้สะดวกสบายด้วยการกดและหมุนไปตามตำแหน่งที่ต้องการ สั่งการด้วยระบบ Shift-by-Wire ให้ความรู้สึกมั่นคง และแม่นยำ พร้อมมอบเอกลักษณ์แบบรถไฟฟ้า BEV อย่างแท้จริง
- แสงสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร ดีไซเนอร์ของเลกซัสอาศัยแรงบันดาลใจจากปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่สวยงามมาสร้างเป็นธีมสีสำหรับสร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสารทั้งหมด 14 ธีม โดยแสงไฟจะเรืองออกมาจากบริเวณคอนโซลอย่างนุ่มนวลสบายตา นอกจากนั้นหน้าจอแสดงผลกลางคอนโซลยังสามารถเลือกเปลี่ยนสีได้อีกถึง 50 สีอีกด้วย
พลังงานขับเคลื่อนไฟฟ้า ช่วยขับเคลื่อน Lexus Driving Signature ให้ก้าวไปไกลยิ่งขึ้น
หนึ่งในคุณสมบัติพื้นฐานของรถยนต์เลกซัสทุกคันคือ Lexus Driving Signature หรือประสบการณ์การขับขี่ที่เราตั้งใจปรับแต่งให้รู้ใจผู้ขับ ควบคุมได้ตามใจปรารถนา ตอบสนองอย่างเฉียบคมทุกการสั่งการ มอบความเพลิดเพลินในทุกการขับขี่ ทั้งขณะเหยียบคันเร่ง บังคับพวงมาลัย และลดความเร็ว ซึ่งเมื่อนำคุณสมบัติเหล่านี้มาผนวกกับเทคโนโลยีของยานยนต์ไฟฟ้าที่เราพัฒนาขึ้นอย่างประณีต จะได้รับความรู้สึกที่ “เป็นธรรมชาติ” เมื่อขับเลกซัส RZ ทั้งจากการควบคุมแรงบิดของมอเตอร์ด้วยความแม่นยำสูง การวางตำแหน่งมอเตอร์ และแบต เตอรีไฟฟ้าที่เหมาะสม ส่งผลให้รถมีการกระจายน้ำหนักที่สมดุล และตอบสนองได้อย่างฉับไว การส่งกำลังแบบ DIRECT4 AWD (ขับเคลื่อนสี่ล้อ) ที่กระจายแรงขับให้ล้อหน้า และล้อหลังได้ตามสภาพการขับขี่ในแต่ละขณะ นี่คือรถยนต์ที่จะใช้งานได้อย่างใจ และนี่คือ Lexus Driving Signature ในรูปแบบใหม่ที่น่าประทับใจยิ่งกว่าเคย
- DIRECT4 ควบคุมการกระจายแรงขับโดยประมวลข้อมูลจากความเร็วล้อ การเร่ง และเซ็นเซอร์องศา
พวงมาลัย เพื่อปรับอัตราการกระจายแรงขับระหว่างล้อหน้า และล้อหลังให้อยู่ระหว่าง 100:0 และ 20:80 (ล้อหน้า:ล้อหลัง) ช่วยให้รถออกตัวได้อย่างปราดเปรียว เพิ่มเสถียรภาพในการควบคุมรถ และลดการใช้พลังงาน รวมทั้งยังช่วยให้ผู้ขับ และผู้โดยสารไม่ต้องเปลี่ยนมุมมองไปมาโดยไม่จำเป็นขณะรถเคลื่อนตัว จึงลดความเหนื่อยล้าในการขับขี่และเพิ่มความสบายในการโดยสาร เมื่อออกตัวขณะจอดหรือทำความเร็วในทางตรง ระบบ DIRECT4 จะช่วยให้ทะยานไปข้างหน้าได้อย่างเฉียบคม ขณะเข้าโค้งระบบจะปรับการจ่ายกำลังขับเพื่อช่วยให้ควบคุมรถได้อย่างมั่นคง รวมทั้งเพลิดเพลินกับสมรรถนะการเข้าโค้งที่นุ่มนวล
- การควบคุมการทรงตัวขณะเบรก ระบบเบรกของ RZ ควบคุมไฮดรอลิกด้วยไฟฟ้า แยกอิสระจากกัน
ทั้ง 4 ล้อ และประสานการป้อนกำลังไฟกลับเข้าแบตเตอรีไฟฟ้าจากการเบรกของล้อหน้า และล้อหลังได้อย่างราบรื่น ส่วนระบบควบคุมการทรงตัวขณะเบรกจะช่วยเพิ่มความมั่นใจ ผ่านการควบคุมเบรกที่ไปตามแรงกดของเท้าอย่างแม่นยำ รวมทั้งเพิ่มความรู้สึกมั่นคงผ่านการกระจายแรงเบรกระหว่างล้อหน้า และล้อหลังที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้รถยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้น การที่ระบบช่วยควบคุมรถให้นิ่งยังช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องส่ายสายตาไปมา จึงควบคุมรถได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นอีกด้วย
- ระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี (BEV) ให้สมรรถนะที่ทรงพลังพร้อมระยะทางการขับที่เพียงพอต่อการใช้งานจริง ขับเคลื่อนด้วยระบบ 4 ล้อไฟฟ้าโดยใช้เพลาขับไฟฟ้า eAxles ทั้งกับล้อคู่หน้า และคู่หลัง และพละกำลังจากแบตเตอรีลิเธียม-ไอออนความจุสูงที่มาพร้อมระบบหล่อเย็นที่มีประสิทธิภาพ เพลาขับไฟฟ้า eAxles ของ RZ เป็นการควบรวมทั้งมอเตอร์ เพลาส่งกำลังไฟฟ้า และตัวแปลงไฟเข้าด้วยกันเป็นหน่วยเดียว มีขนาดกะทัดรัดเพื่อลดน้ำหนัก เพิ่มระยะทางวิ่งต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และเอื้อพื้นที่ให้ห้องโดยสาร รวมทั้งดีไซน์ภายนอกที่โฉบเฉี่ยว เพลา eAxle ที่ล้อหน้าประกอบอยู่ในกล่องทรงสั้นวางตัวตามแนวยาว ส่วนที่ล้อหลังติดตั้งอยู่ต่ำเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้ห้องโดยสาร และที่เก็บสัมภาระท้ายรถ แบตเตอรีไฟฟ้าแม้จะมีขนาดใหญ่แต่ถูกออกแบบให้เป็นส่วนเดียวกับโครงสร้างตัวถัง จึงช่วยดึงจุดศูนย์ถ่วงของตัวรถให้ต่ำ เพิ่มความแข็งแรงของตัวถัง และยังเพิ่มพื้นที่ให้ห้องโดยสาร พร้อมด้วยระบบหล่อเย็นที่ติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม ทำให้ทำความเย็นได้ดีเยี่ยม และยังช่วยด้านความปลอดภัย เพิ่มประสิทธิภาพในการให้กำลัง และการ ชาร์จไฟ รวมทั้งยืดอายุแบตเตอรีให้ยาวนาน ส่วนระบบทำความร้อนให้แบตเตอรีช่วยให้ชาร์จไฟได้รวดเร็วท่ามกลางอากาศหนาวเย็น
- การชาร์จไฟฟ้า ชุดชาร์จไฟของของ RZ ติดตั้งมาพร้อมตัวรถ มาพร้อมมาตรวัดระดับการชาร์จ ไฟแจ้งสถานะการชาร์จ ระบบล็อคฝาปิดช่องชาร์จขณะจอด และระบบล็อคหัวชาร์จติดกับช่องชาร์จเพื่อการชาร์จที่ปลอดภัยสำหรับทั้งไฟกระแสตรง (DC) และกระแสสลับ (AC) นอกจากนั้นยังมีโหมด My Room สำหรับเปิดใช้อุปกรณ์ต่างๆ เช่นระบบปรับอากาศและเครื่องเสียงในขณะชาร์จไฟรถ โดยไม่ต้องกังวลว่าไฟในแบตเตอรีจะหมด *โหมดมายรูมไม่สามารถใช้งานได้ขณะชาร์จแบบ V2H หรือชาร์จด้วยแหล่งพลังงาน V2H
- การชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ช่องเสียบหัวชาร์จแบบ DC เป็นแบบควิกชาร์จ ติดตั้งอยู่ที่บังโคลนหน้าด้านซ้าย รองรับกำลังไฟได้สูงสุดถึง 150kW จึงชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็ว
- การชาร์จด้วยไฟกระแสสลับ (AC) ช่องเสียบหัวชาร์จแบบ AC ติดตั้งอยู่ที่บังโคลนหน้า สามารถเสียบสายชาร์จเข้ากับปลั๊กไฟบ้านที่ใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ หรือเสียบกับแท่นชาร์จไฟกระแสสลับแล้วชาร์จไฟเข้ารถได้ตามปกติ สามารถตั้งเวลาการชาร์จไฟอัตโนมัติได้ 2 รูปแบบคือ ตั้งเวลาเริ่มชาร์จ ระบบจะเริ่มชาร์จไฟตามเวลาที่กำหนด หรือตั้งเวลาที่จะออกเดินทาง ระบบจะชาร์จไฟให้เต็มภายในเวลาที่กำหนด
- ความแข็งแกร่งของตัวถังรถ ข้อต่อ และจุดเชื่อมของโครงสร้างตัวถังใช้การยึดด้วยสกรูว์และหมุดเลเซอร์ (Laser Screw Welding และ Laser Pinning Welding) เพื่อให้แข็งแกร่ง และช่วยเพิ่มความมั่นคงในการควบคุมรถรวมทั้งความสบายขณะโดยสาร และยังป้องกันการบิดตัวของกรอบประตูฝาท้ายโดยการใช้โครงสร้างแบบวงแหวนสองชั้นร่วมกับโฟมความแข็งแกร่งสูงอีกด้วย
- ตัวถังน้ำหนักเบา ตัวถังของ RZ มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแกร่งสูง โดยเสาคู่หน้า คู่กลาง และรางคู่หน้าทำจากโครงสร้างชนิดผสมผสานที่นำโลหะแรงดึง 1.8GPa และ 1.5GPa มาทับซ้อนกันและเชื่อมเข้าด้วยกันขณะเป็นแผ่นเรียบ แล้วจึงนำมาปั๊มขึ้นรูปร้อนตามทรงที่ต้องการ ส่วนแกนกลางหลังคาใช้เหล็กแผ่นค่าความต้านทานแรงดึงสูง 1,470MPa ฝากระโปรงหน้าใช้อลูมินัมน้ำหนักเบา ประตู ซุ้มล้อ และวัสดุตกแต่งประตูฝาท้ายขึ้นรูปจากโฟมเรซินที่มีน้ำหนักเบาเช่นกัน
- ระบบกันสะเทือน ด้านหน้าเป็นแบบแมคเฟอร์สัน สตรัท และด้านหลังเป็นแบบปีกนกคู่พร้อมเทรลลิงอาร์ม ระบบกันสะเทือนหน้าใช้ตัวดูดซับแรงกระแทกชนิด FRD II ที่ปรับการรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแกนโช้คได้หลายระดับตามแต่ละสภาพพื้นผิวถนน ทั้งช่วยให้รถมีความมั่นคง ควบคุมได้ง่าย และยังนุ่มนวลนั่งสบายอีกด้วย ซึ่งการนำตัวดูดซับแรงกระแทก FRD มาใช้กับโครงสร้างที่ออกแบบมาเพื่อรถ BEV โดยเฉพาะทำให้เลกซัสสามารถคงเอกลักษณ์ของ Lexus Driving Signature เอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม
- อากาศพลศาสตร์ RZ ถูกออกแบบมาให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า BEV โดยกำเนิดการลดค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน (ค่า Cd) จึงมีผลต่อระยะการวิ่งต่อการชาร์จหนึ่งครั้งโดยด้านบนหลังคาของ RZ มีสปอยเลอร์ที่ช่วยสร้างลมหมุนตามยาวเพื่อลดแรงลมต้านบนตัวถัง และลมขวาง ช่วยให้ตัวรถนิ่ง และมั่นคงขณะขับขี่ กึ่งกลางหลังคาออกแบบให้ไล่ลมจากกระจกหลังไปยังท้ายรถได้อย่างราบรื่น ที่ด้านท้ายมีสปอย์เลอร์สั้น (duck tail) ทีคอยกระจายลมด้านท้ายอย่างสมดุลพร้อมทั้งกดท้ายรถให้นิ่งขณะใช้ความเร็ว ใต้ท้องรถปิดด้วยฝาครอบแบบเรียบเพื่อลดแรงต้านลม พร้อมรอยบุ๋มเพื่อสร้างลมหมุนขนาดเล็กใต้ท้องรถ ช่วยเพิ่มความรู้สึกเกาะถนน และเพิ่มความมั่นคงในการขับขี่ นอกจากนั้นฝากระโปรงหน้าที่อยู่ต่ำ และการไม่จำเป็นต้องมีช่องดักลมที่กระจังหน้า ยังช่วยให้อากาศพลศาสตร์ของ RZ มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เงียบสบาย พร้อมเสียงสังเคราะห์พิเศษจากเลกซัส
- เพื่อความเงียบสบายสูงสุด ห้องโดยสารของรถเลกซัสทุกคันต้องปราศจากเสียงรบกวนอันไม่พึงประสงค์ เราจึงใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อสร้างบรรยากาศที่เงียบสบายอย่างสูงสุด ตั้งแต่การควบคุมการไหลของอากาศรอบๆ ตัวรถเพื่อช่วยลดเสียงลมปะทะต่างๆ การวางแบตเตอรีไฟฟ้าไว้ที่พื้นรถเพื่อเพิ่มการดูดซับเสียงจากถนน ทำให้การโดยสารรถเลกซัสเต็มไปด้วยบรรยากาศที่ผ่อนคลาย เอื้อต่อการสนทนา ทั้งระหว่าง ผู้ขับ ผู้โดยสารเบาะหน้า และผู้โดยสารเบาะหลัง แม้ในขณะใช้ความเร็วสูง
- ความเงียบในห้องโดยสาร แบตเตอรีไฟฟ้าของ RZ ถูกจัดวางไว้ใต้พื้นห้องโดยสารเพื่อดักเสียงรบกวนจากถนน พร้อมการอุดช่องโหว่ระหว่างฝากระโปรงรถ และตัวรถอย่างแน่นหนาเพื่อไม่ให้มีเสียงเล็ดลอดออกมา กระจกที่ประตูคู่หน้า และคู่หน้งเป็นแบบอะคูลติกสะท้อนเสียงรบกวน เสริมด้วยยางขอบประตูแนวขวาง ช่วยกรุขอบกระจกให้ยิ่งเงียบสนิท รวมทั้งแทรกตัวซับเสียง และแรงสั่นสะเทือนไว้ในแผงหลังคา เคลือบโฟมที่ฐานของเสาคู่หน้า และคู่กลาง ติดตั้งตัวซับเสียงใต้บังโคลน และที่ช่องระหว่างฝากระโปรง และกระจกหน้า รวมทั้งใต้ฝากระโปรง และซุ้มล้อ
- ASC ระบบสร้างและควบคุมเสียงอัตโนมัติ ความเงียบที่ดีที่สุดสำหรับรถยนต์ไม่ใช่การปราศจากเสียงใดๆ ไปเสียทั้งหมด เพราะผู้ขับยังคงต้องการสื่อสารกับรถในขณะขับขี่ วิศวกรของเลกซัสจึงได้สร้างเสียงพิเศษให้กับห้องโดยสารเพื่อเพิ่มความสนุกเร้าใจในการขับขี่ เมื่อคุณอยู่ใน Lexus RZ คุณจะได้ยินเสียงที่เปลี่ยนไปตามความเร็วของรถเพื่อให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติขณะใช้สมรรถนะ และความเร็ว รวมทั้งเสียงของระบบส่งกำลังที่ผ่านการปรับจูนให้รื่นรมย์ขณะขับขี่
สร้างพื้นที่แห่งความสบาย ด้วยฟังก์ชันที่ละเอียดอ่อนของ Lexus
- เครื่องกระจายความอุ่น* ติดตั้งอยู่ใต้คอพวงมาลัย และแผงหน้าปัดส่วนล่าง ช่วยเพิ่มความอุ่นให้บริเวณขาของผู้ขับขี่ และผู้โดยสารด้านหน้า โดยจะปิดระบบอัตโนมัติ และลดอุณหภูมิลงทันทีเมื่อเกิดการสัมผัสจากผู้ใช้งาน ทำงานร่วมกับเครื่องทำความอุ่นบริเวณที่นั่ง และระบบปรับอากาศโดยไม่เพิ่มภาระให้การใช้แบตเตอรี่ไฟฟ้า
- ระบบควบคุมการปรับอากาศอัจฉริยะ ทำงานร่วมกับระบบปรับอากาศอัตโนมัติ โดยตรวจวัดอุณหภูมิจากจุดสัมผัสต่างๆ เช่นเบาะคู่หน้า พวงมาลัย และเบาหลัง แล้วปรับอุณหภูมิแบบแยกอิสระ 3 โซนตามความเหมาะสม
- หลังคากระจกพาโนรามา พร้อมฟังก์ชันปรับลดแสงอัจฉริยะ* เสริมบรรยากาศในห้องโดยสารให้โปร่งสบาย พร้อมกระจก Low-e ช่วยป้องกันความร้อนและรังสียูวีได้ 99% เพิ่มความสบายแม้ขณะอยู่กลางแดด ฟังก์ชันลดแสงจะทำงานโดยอัตโนมัติ จึงไม่จำเป็นต้องใช้ม่านบังแดด
- ระบบกลอนประตูอัจฉริยะ e-latch สร้างโดยแรงบันดาลใจจากความสะดวกในการเลื่อนบานประตูกระดาษสาของชาวญี่ปุ่น เมื่อต้องการขึ้นรถ เพียงเอื้อมมือมาแตะสวิตช์ด้านในมือจับประตูนอกตัวรถ ประตูจะแง้มออกเพื่อให้คุณดึงเปิดได้ทันที และเมื่อต้องการลงจากรถก็เพียงกดสวิตช์ที่มือจับภายในรถพร้อมกับผลักประตูออกได้ในขั้นตอนเดียว ในกรณีที่ระบบไฟฟ้าไม่ทำงาน คุณสามารถดึงมือจับสองครั้งเพื่อเปิดด้วยวิธีปกติได้
- แท่นชาร์จแบบไร้สายสำหรับสมาร์ทโฟน ซ่อนอยู่ในกล่องเก็บของด้านหน้าคอนโซลกลาง เพียงวางโทรศัพท์หรืออุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จแบบไร้สายลงบนแท่นชาร์จ
- พื้นที่เก็บของใต้คอนโซล เพิ่มพื้นที่สำหรับใส่คู่มือรถหรือวางของอเนกประสงค์ พร้อมทั้งเพิ่มพื้นที่วางขาให้แก่ผู้โดยสารข้างหน้า โดยคอนโซลที่พาดผ่านระหว่างที่นั่งคนขับ และผู้โดยสารช่วยเพิ่มความรู้สึกสะอาดตาและโล่งกว้าง
- สร้างอากาศสดชื่นด้วย nanoeX ระบบปรับอากาศของเลกซัส RZ มาพร้อมเทคโนโลยี nanoeX ที่มีตัวปล่อยประจุลบนาโนอี เพื่อช่วยฟอกอากาศในห้องโดยสาร เพิ่มความสดชื่นให้การเดินทาง
- กล่องคอนโซลด้านหลัง ด้านหลังกล่องคอนโซลกลางติดตั้งช่องชาร์จ USB-C จำนวน 2 ช่อง DC12V และ AC ที่แผงด้านล่างของส่วนท้ายคอนโซล เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัลเมื่อนั่งอยู่ที่เบาะด้านหลัง
- ห้องเก็บสัมภาระ ให้พื้นที่กว้างขวางสำหรับรถยนต์ BEV โดยสามารถบรรจุถุงกอล์ฟเต็มขนาดได้ถึง 3 ใบ หรือกระเป๋าเดินทางขนาด 140 ลิตร และ 90 ลิตรพร้อมกันได้อย่างง่ายดาย การวางระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าในตำแหน่งที่เหมาะสมช่วยให้ RZ มีพื้นที่เก็บของเพียงพอต่อความต้องการ นอกจากนั้นม่านปิดห้องเก็บสัมภาระยังเปิด และปิดโดยอัตโนมัติเมื่อเปิดหรือปิดฝาท้าย หรือสามารถถอดเก็บได้เมื่อต้องการบรรทุกของที่มีความสูง พร้อมให้ความสว่างด้วยไฟ LED บริเวณด้านข้างและที่ฝาท้าย
เทคโนโลยีความปลอดภัยระดับโลก
- ระบบป้องกันก่อนการชน เมื่อเรดาร์ และเซ็นเซอร์ตรวจพบยานพาหนะ คนเดินเท้า หรือสิ่งแปลกปลอม ด้านหน้ารถ และประเมินว่าอาจเกิดการชน ระบบจะแจ้งเตือนคนขับด้วยเสียงสัญญาณและข้อความบนจอแสดงผล พร้อมเพิ่มแรงเบรกให้โดยอัตโนมัติ หรือหากระบบประเมินว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดการชนกับยานพาหนะที่ใกล้เข้ามา ระบบจะส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ และเบรกให้โดยอัตโนมัติเพื่อบรรเทาความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ทุกช่วงความเร็ว) ระบบจะควบคุมความเร็วของรถตามที่ผู้ขับตั้งค่าโดยไม่ต้องเหยียบคันเร่ง และหากเรดาร์ และเซ็นเซอร์กล้องที่หน้ารถตรวจพบว่ามียานพาหนะอื่นๆ อยู่ด้านหน้า ระบบจะลดหรือเพิ่มความเร็วโดยอัตโนมัติเพื่อรักษาระยะห่างที่เหมาะสม
- ระบบติดตามช่องทางการวิ่ง พร้อมระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน เมื่อเปิดใช้งานระบบจะช่วยรักษารถให้อยู่ในเส้นทางเพื่อความปลอดภัย โดยหากรถเริ่มเฉออกจากเลนหรือแนวถนนระบบจะส่งสัญญาณเตือนผู้ขับ และช่วยหน่วงพวงมาลัยเพื่อนรักษาแนวการวิ่งของรถ และหากขับขี่บนทางหลวงหรือทางเฉพาะรถยนต์โดยเปิดใช้ระบบ Dynamic Radar Cruise Control และใช้ความเร็วเต็มระดับที่ตั้งค่าไว้ ระบบ LTA จะช่วยสนับสนุนโดยควบคุมพวงมาลัยเพื่อรักษารถให้วิ่งอยู่
- ระบบช่วยเปลี่ยนเลน ทำงานร่วมกับระบบ LTA เพื่อช่วยควบคุมการเลี้ยวขณะเปลี่ยนเลน พร้อมตรวจสอบยานพาหนะในเลนที่จะไป เริ่มทำงานเมื่อผู้ขับเปิดสัญญาไฟเลี้ยว และเมื่อเปลี่ยนเลนเรียบร้อยไฟเลี้ยวจะดับโดยอัตโนมัติ โดยจะทำงานเมื่ออยู่บนทางหลวง หรือเส้นทางเฉพาะรถยนต์ซึ่งมีเส้นแบ่งเลนชัดเจน
- ระบบไฟหน้าปรับสูง-ต่ำอัจฉริยะ* จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้การขับขี่ตอนกลางคืน โดยคอยตรวจหาลำแสงจากไฟหน้าของรถที่แล่นสวนมา จากไฟท้ายของรถคันหน้า หรือจากแหล่งกำเนิดแสงไฟสูงของเลคซัส RZ ระบบก็จะเลือกดับไฟ LED แต่ละดวงในชุดไฟสูงแต่ละข้าง เพื่อตัดแสงไม่ให้รบกวนยานพาหนะคันอื่นๆ และจะเปิดไฟเหล่านั้นอีกครั้งเมื่อยานพาหนะคันดังกล่าวเคลื่อนออกจากรัศมีไฟสูงของเลกซัส RZ
- ระบบไฟสูงอัตโนมัติ** เพิ่มความสะดวกให้การเดินทางตอนกลางคืน ด้วยระบบไฟสูงอัตโนมัติที่จะสลับเป็นไฟต่ำให้เมื่อตรวจพบยานพาหนะคันอื่นที่ด้านหน้าหรือในเลนตรงข้าม และจะสลับกลับเป็นไฟสูงเมื่อยานพาหนะดังกล่าวเคลื่อนออกไป
- ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ Lexus Teammate Advanced Park ช่วยให้คุณจอดรถได้ง่ายขึ้นเมื่อเข้าจอดในที่พื้นที่เปิด เริ่มใช้งานโดยหยุดรถข้างจุดที่ต้องการจอดแล้วกดปุ่มเปิดระบบ พื้นที่จอดจะปรากฏขึ้นบนจอเพื่อยืนยัน เมื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อมแล้ว ให้ผู้ขับกดปุ่ม “เริ่มจอด” แล้วปล่อยพวงมาลัย และถอนเบรก ระบบจะนำรถเข้าจอดให้เองโดยอัตโนมัติ โดยควบคุมทั้งพวงมาลัย คันเร่ง เบรก และเกียร์ พร้อมแสดงภาพมุมสูงเพื่อให้เห็นสภาพแวดล้อมโดยรวมของจุดจอด ตัวรถ และสิ่งกีดขวางต่างๆ และจะส่งสัญญาณเตือนพร้อมเบรกโดยอัตโนมัติเมื่อเข้าใกล้สิ่งกีดขวางที่อาจชนได้
- ระบบตรวจสอบจุดอับสายตา BSM ช่วยให้เปลี่ยนเลนได้อย่างปลอดภัย โดยใช้เรดาร์บริเวณมุมกันชนท้ายตรวจสอบยานพาหนะในเลนข้าง ๆ ที่อยู่ในจุดอับสายตา และมองเห็นได้ยากจากกระจกมองข้าง พร้อมสั่นเตือน และส่งสัญญาณเตือนบนกระจกมองข้างด้านนั้นๆ
- ระบบความปลอดภัยขณะเปิดประตู ทำงานร่วมกับระบบตรวจสอบจุดอับสายตา (BSM) เพื่อตรวจสอบว่ามียานพาหนะหรือจักรยานแล่นเข้ามาทางด้านหลังรถหรือไม่ หากพบจะส่งสัญญาณเตือนบนกระจกมองข้างด้านนั้นๆ เพื่อไม่ให้ผู้ขับหรือผู้โดยสารเปิดประตูออกไป หรือหากมีการพยายามเปิดประตู ระบบ e-Latch จะไม่เปิดให้พร้อมแสดงสัญญาณเตือนด้วยไฟกระพริบที่กระจกมองข้างและบนหน้าจอ
- ระบบช่วยเบรกขณะถอยออกจากที่จอด PKSB ช่วยตรวจหาทั้งวัตถุคงที่รอบๆ รถและยานพาหนะรวมทั้งคนเดินเท้าที่กำลังเข้าใกล้ท้ายรถ*1 ได้ในวงกว้าง ขณะกำลังถอยออกจากที่จอด และหากตรวจพบระบบจะช่วยควบคุมทั้งเบรก และคันเร่ง เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และให้คุณถอยรถได้อย่างปลอดภัย
- จอแสดงภาพรอบทิศทาง ประมวลข้อมูลจากกล้องบริเวณด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังของตัวรถ เพื่อแสดงภาพจำลองมุมสูง ช่วยให้เห็นสภาพแวดล้อมได้รอบคันรถ โดยเฉพาะจุดที่สังเกตเห็นได้ยากจากเบาะคนขับ เลือกการแสดงผลได้ 3 แบบคือ แบบ see-through มองทะลุตัวรถได้ แบบ side clearance ช่วยกะระยะ 2 ข้างของตัวรถ และแบบ cornering แสดงตำแหน่งรถขณะเลี้ยวรถในทางแคบ เพื่อป้องกันการชนสิ่งกีดขวาง
*สำหรับเกรด Premium เท่านั้น
**สำหรับเกรด Luxury เท่านั้น
The All New Lexus RZ 450e
มอเตอร์ไฟฟ้าชนิด Synchronous Alternating current Motor (Permanent magnet type)
มอเตอร์หน้า กำลังสูงสุด 201 / 204 / 150 กิโลวัตต์/แรงม้า
แรงบิดสูงสุด 226.3 นิวตัน-เมตร
มอเตอร์หลัง กำลังสูงสุด 107/ 109 / 80 กิโลวัตต์/แรงม้า
แรงบิดสูงสุด 168.5 นิวตัน-เมตร
กำลังรวมทั้งระบบ 308 / 312 /230 กิโลวัตต์
แบตเตอรี่ไฮบริดชนิดลิเธียมไอออน
แรงดันไฟฟ้าสูงสุด 355.2 โวล์ต
ความจุแบตเตอรี่ 201 แอมแปร์/ชั่วโมง
จำนวนเซลล์แบตเตอรี่ 96 เซลล์
กำลังแบตเตอรี่ 71.4 กิโลวัตต์ /ชั่วโมง
รองรับหัวชาร์จ AC/DC (ด้านซ้ายหน้า) Type 2 (11kW) / CCS (150kW)
เวลาในการชาร์จประจุกระแสสลับ (AC) 6.5 ชั่วโมง
เวลาในการชาร์จประจุแบบเร็ว (DC) 30 นาที
สมรรถนะ
ความเร็วสูงสุด 160 กิโลเมตร/ชั่วโมง
อัตราการเร่ง 5.3 กิโลเมตร/วินาที
ค่าเฉลี่ยมลพิษ Co2 0 กรัม/กิโลเมตร
ระยะทางสูงสุดโดยเฉลี่ย 470 กิโลเมตร* (*มาตรฐาน NEDC)
เลือกเป็นเจ้าของ The All New Lexus RZ 450e ได้ 6 สี
- Sonic Quartz - Sonic Chrome
- Sonic Iridium - Graphite Black Glass Flake
- Sonic Copper - สีใหม่ Aether Metallic
สีภายใน RZ 450e 2 สี Hazel และ Grayscale รุ่น Luxury Grade (Synthetic leather)
และรุ่น Premium (Ultrasuede)
เป็นเจ้าของ The All New Lexus RZ 450e ทุกรุ่นวันนี้
ราคา (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- RZ 450e เกรด Luxury 3,870,000 บาท
- RZ 450e เกรด Premium 4,190,000 บาท
Lexus RZ ทุกคัน มาพร้อมกับแพ็กเกจ Lexus LXP Standard เพิ่มความมั่นใจยิ่งกว่าด้วยการขยายการรับประกันรถยนต์ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และมั่นใจสูงสุดด้วยการรับประกันแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน นานถึง 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร
สามารถจอง Lexus RZ ผ่าน Lexus Online Booking ได้ตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม ศกนี้ เวลา 15.00น. เป็นต้นไปที่ www.lexus.co.th โดย 10 ท่านแรกที่จองผ่านระบบออนไลน์จะได้รับการการันตีรับรถก่อนใคร พร้อมรับของที่ระลึก Lexus 30 Years Anniversary
สะดวกยิ่งขึ้นกับการบริการ KINTO ONE บริการเช่ารถระยะยาวที่ ครอบคลุมทุกค่าใช้จ่าย สามารถเลือกระยะเวลา และระยะทางได้หลากหลาย โดยค่าบริการสำหรับ Lexus RZ เริ่มต้นเพียง 69,990 บาทต่อเดือน
และเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ชีวิตที่เหนือกว่า สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์เลกซัสทุกรุ่นจากผู้แทนจำหน่ายเลกซัสอย่างเป็นทางการ
- รับสิทธิ์เป็นสมาชิก Lexus Club รวมทั้งสิทธิพิเศษจาก Lexus Privilege ผ่าน Mobile Application “Lexus Elite Club”
- อุ่นใจทุกการเดินทางด้วยบริการจากเลกซัส เซอร์วิส คอร์เนอร์ ในศูนย์บริการโตโยต้าที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการด้วยมาตรฐานเลกซัส ทั้ง 15 แห่ง ทั่วประเทศ พร้อมบริการ Home Visit Mobility Service โดยส่งช่างผู้เชี่ยวชาญของเลกซัส เพื่อมอบบริการสำหรับท่านลูกค้าทั่วประเทศ
นอกจากนี้เพื่อเอกสิทธิ์เหนือระดับ... ให้คุณมั่นใจทุกที่ทุกเวลา Lexus Exclusive Package
Lexus Exclusive Package คือโปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง มาพร้อมบริการ Lexus Concierge Service เลขาส่วนตัว และ การช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ดูแลช่วยเหลือให้คุณสะดวกสบายด้วยเอกสิทธิ์เหนือระดับ ให้คุณมั่นใจทุกที่ทุกเวลา รวมถึงค่าบำรุงรักษารถยนต์ตลอดระยะเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร
เลกซัส ออกแบบทางเลือกประเภทของโปรแกรม เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ และช่วยคุณประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาว
- STANDARD ครอบคลุมค่าแรงตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (50,000 บาท)
- PLUS ครอบคลุมการบำรุงรักษารถยนต์ทั้งค่าแรงและค่าอะไหล่ตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (ยกเว้นอะไหล่เสื่อมสภาพ) (70,000 บาท)
- PREMIUM ครอบคลุมการบำรุงรักษารถยนต์ทั้งค่าแรงและค่าอะไหล่ตลอด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร รวมอะไหล่เสื่อมสภาพ (90,000 บาท)
โดยทุกท่านสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของเลกซัสเพิ่มเติมได้ที่ www.lexus.co.th
และ ช่องทางออนไลน์ Official Account : Lexus Thailand